ไม่มีคนไทยที่ไม่ชอบทาน ขนมตาล ขนมแป้งหอมสีเหลือง ที่ไม่ว่าจะเด็ก หรือ ผู้ใหญ่ก็ต่างชอบกันเป็นแถวเพราะขนมตาลเป็นขนมไทยที่อร่อยมาก ๆ และหาซื้อได้ง่ายมากอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็จะมีแม่ค้าหาบเร่ หรือ แม่ค้าในตลาดมาขายขนมตาลกันอยู่เป็นประจำ เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าใคร ชื่นชอบขนมไทยเนื้อนุ่ม แป้งหอม ละมุนลิ้น ทานได้เรื่อย ๆ ขนมตาลถือว่าเหมาะกับคุณมากที่สุด รับรองว่ายิ่งทาน ยิ่งฟิน

ในบทความนี้ เราจะมาแจกสูตร วิธีการทำขนมตาลกันแบบง่าย ๆ คุณสามารถทำเองได้ที่บ้าน และสามารถจะทานกันได้ทั้งครอบครัว แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการจะทำขาย ขนมตาลก็เป็นขนมที่มีวัตถุดิบที่น้อย และสามารถทำได้อย่างง่าย ๆ ไม่กี่นาทีก็สามารถจะทานกันได้ และยังเป็นขนมที่สามารถทำทานกันได้ทั้งครอบครัวอีกด้วย
ประวัติความเป็นมาของ ขนมตาล
ความเป็นมาของขนมตาลนั้น เดิมทีเป็นขนมไทยดั้งเดิม ที่มีสีสันฉูดฉาด ไม่ว่าใครเห็นก็จะต้องถูกใจ ในสีสันของมัน และยังเป็นขนมที่สามารถทานได้ง่าย เพราะว่ามี รสชาติหวาน หอม นุ่ม ฟู กลิ่นหวานของขนมตาลนั้น จะไม่เหมือนกับกลิ่นของขนมไทยชนิดอื่น ๆ เพราะว่าจะมีความหวานละมุนที่มากกว่า และรสสัมผัสของตัวแป้งนั้น ยิ่งส่งทำให้ตัวขนมมีความละมุนเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย เดิมทีขนมตาลมีสูตรดั้งเดิมก็คือ ทำมาจากเนื้อตาลสุก ผสมกับ แป้งเข้าจ้าว กะทิ และน้ำตาล ผสมกัน และเอกลักษณ์ของขนมตาลที่ขาดไม่ได้ก็คือ จะต้องทำใส่กะทงใบตอง และโรยด้วยมะพร้าวขูดเท่านั้น

ในปัจจุบันนี้ ขนมตาลหาทานได้ง่าย แต่ถ้าจะหาขนมตาลที่รสชาติ และเป็นขนมตาลเนื้อแท้ ก็ค่อนข้างที่จะหายาก เพราะว่าส่วนใหญ่ผู้ที่ขายขนมตาล มักจะไม่ค่อยใส่เนื้อตาลเข้าไป จึงทำให้ความหอมของตาลนั้นมีน้อย แต่จะเพิ่มแป่ง และแต่งกลิ่นสีเข้าไปแทน จึงทำให้ขนมตาลในทุกวันนี้ แน่นไปด้วยแป้ง แต่ความหอม ละมุนลดน้อยลง รสชาติก็จะไม่อร่อยตามไปด้วย
ทำไมต้องเลือกทำขนมตาลขายเพื่อสร้างรายได้
เพราะว่า ขนมตาลมีส่วนประกอบที่หาซื้อได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นขนมไทยโบราณที่หาเจ้าอร่อยทานได้ยาก ดังนั้น ถ้าหากว่าคุณจะนำสูตรขนมตาลไปขาย ทางเราจะแนะนำเป็นอย่างมาก แต่คุณจะต้องเน้นในส่วนของเครื่องผสม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของตัวเนื้อลูกตาลสุก ที่จะต้องใส่มากกว่าตัวแป้ง เพื่อให้เกิดความแตกต่างกับร้านขนมอื่น ๆ
นอกจากนี้ ขนมตาลยังเป็นขนมที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องซื้อ เพราะว่ามันมีสีสันที่สวย และยังสามารถจะทานได้แบบไม่มีเบื่อ เรียกได้ว่าเป็นขนมเพลิน ๆ เหมาะกับทุกเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นเด็กในยุคสมัยใด ก็เรียกร้องจะทานขนมตาลกันทั้งนั้น ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปดูกับ สูตรขนมตาลกันว่า จะมีกรรมวิธีในการทำอย่างไรบ้าง แต่การตวงส่วนผสม คุณจะต้องทำการกะเอาเอง เพราะทางเราจะบอกแค่ส่วนประกอบ และวัตถุดิบเท่านั้น
ส่วนผสม ขนมตาล
- เนื้อลูกตาลสุก
- แป้งข้าวเจ้า
- น้ำตาลทราย
- เกลือ
- หัวกะทิ
- ผงฟู
- มะพร้าวขูดฝอย
ส่วนประกอบ และส่วนผสมจะขึ้นอยู่กับความมากน้อย ในการทำขนมของคุณ อาจจะมีลด หรือ เพิ่มก็ตามความสะดวก

วิธีทำขนมตาล
- ขั้นตอนแรกนั้น นำกะทิ และน้ำตาลผสมเข้าด้วยกัน และคนจะน้ำตาลละลายเข้ากันดี หลังจากนั้นให้ใส่เนื้อลูกตาลสุกลงไป พร้อมกับตี หรือ ผสมให้เข้ากันจนเนียนเป็นเนื้อเดียว
- หลังจากที่เราได้ตัวตาลที่มี เนื้อเนียนละเอียดแล้ว ให้ใส่ผงฟู และเกลือตามลงไป จากนั้น ตี หรือ คนส่วนผสมให้เข้ากันทั้งหมด และกรองส่วนผสมออกทั้งหมดด้วยผ้าขาวบาง หรือ ผ่านตะแกรงตาถี่ก็ได้ เมื่อกรองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้พักแป้งทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที
- ทำใบตองรองขนมรอไว้ โดยให้นำใบตองมากลัด ให้เป็นถ้วยทรงกลม แบบพิมพ์ใส่ขนม แต่ขั้นตอนนี้จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จะต้องดูให้ดีว่ากลัดใบตองแน่นพอหรือไม่ จากนั้นนำไปนึ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อไม่ให้ติดแป้งขนม
- เทแป้งที่เราผสมแล้วลงในพิมพ์ใบเตยที่เรานึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว และนำไปนึ่งต่อจับเวลาประมาณ 15-20 นาที ก่อนที่จะนำขนมขึ้นให้ใช้ไม้ปลายแหลม จิ้มดูว่าขนมสุกแล้วหรือยัง ถ้าหากว่าแป้งไม่ติดไม้แหลม แสดงว่าสุกแล้วให้นำขึ้นมาพักได้เลย
- เมื่อขนมของเราเย็นเรียบร้อยแล้ว ให้นำมะพร้าวขูด โรยหน้าขนม และจัดจานพร้อมเสิร์ฟได้เลยทันที
สรุป
ขนมตาล ถือว่าเป็นขนมไทยที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ และวัตถุดิบในการทำขนมนั้น ก็สามารถจะหาได้ง่ายมาก ๆ เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าคุณไม่อยากจะซื้อขนมตาลทาน ก็สามารถลองทำเองได้เลยง่าย ๆ และยังสามารถทำทานได้ทั้งครอบครัวอีกด้วย แต่ถ้าหากว่าใครที่อยากจะ ดูสูตรขนมต่าง ๆ จากทางเราเพิ่มเติมอีกก็สามารถจะติดตามได้เลยผ่านทางเว็บไซต์ของเรา ครั้งหน้าจะเป็นขนมชนิดใด สามารถติดตามดูกันได้เลย
Credit by : ทางเข้า Ufabet Ufabet Ufabet เว็บหลัก สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์